สะพานชาร์ลส์ หรือ Charles Bridge นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับเเลนด์มาร์คอีกเเห่งของกรุงปราก เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กที่ตั้งอยู่ในยุโรปตะวันออกเลยทีเดียว โดยจะทอดยาวข้ามเเม่น้ำวิตาร่า เพื่อเชื่อมสองฝั่งของกรุงปราก นั่นคือ Lesser Town ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกและ Old Town ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเเม่น้ำ เข้าด้วยกัน
สะพานประวัติศาสตร์ข้ามแม่น้ำวัลตาวาในกรุงปราก ประเทศเช็กโก-สโลวาเกีย (ชื่อในสมัยนั้น) เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1357 ในพระบรมราชานุเคราะห์จาก จักรพรรดิคาร์ลที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ สร้างเสร็จเมื่อตอนเริ่มศตวรรษที่ 15 สะพานแห่งนี้สร้างแทนสะพานจูดิท ที่สร้างระหว่างปี ค.ศ. 1158–1172 ต่อมาได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในปี ค.ศ. 1342 จึงได้มีการก่อสร้างสะพานใหม่ แรกเริ่มใช้ชื่อว่า สะพานสโตน (Stone Bridge) หรือสะพานปราก (Prague Bridge) และมาเปลี่ยนชื่อมาเป็นสะพานชาลส์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1870 สะพานชาร์ลส์นั้น สร้างขึ้นมาเพื่อเชื่อมสองฝั่งของกรุงปรากเข้าด้วยกัน เเละในอดีตสมัยจักรพรรดิโบฮีเมียน สะพานเเห่งนี้เป็นเส้นทางในการเดินทางของพระราชวงศ์เท่านั้น สะพานมีความยาว 621 เมตร (2,037 ฟุต) และมีความกว้างเกือบ 10 เมตร (33 ฟุต) สร้างตามแบบสะพานสโตนในเรเกนส์บูร์ก เป็นสะพานโค้งประกอบด้วยช่องโค้ง 16 ช่อง ในแม่น้ำ Vltava ซึ่งทำหน้าที่รับน้ำหนักสะพาน
ด้วยความเก่าเเก่เเละสวยงามแล้ว สองฝั่งของสะพานจะมีรูปปั้นกว่า 30 ตัว รูปปั้นส่วนใหญ่นี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 และ 16 แต่ที่ตั้งอยู่บนสะพานนี้ เป็นรูปปั้นจำลอง เนื่องจากรูปปั้นของจริงได้รับการเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ ในอดีตเเม้จะเคยอนุญาตให้รถยนต์วิ่งบนสะพานได้ เเต่สุดท้ายเเล้วก็ได้ประกาศยกเลิก จนกลายเป็นสะพานคนเดินในที่สุด หากเดินจากทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก ก็จะมองเห็น Prague Castle ได้ชัดเจนระหว่างที่เดินข้ามแม่น้ำ ในเวลากลางวัน สะพานแห่งนี้จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คน บรรดานักแสดง พ่อค้าแม่ค้าริมถนน และศิลปิน ที่ต่างเดินทางมาแต่งแต้มสีสันให้กับบรรยากาศ เราจึงสามารถสัมผัสวัฒนธรรมสมัยใหม่ ไปพร้อมกับประวัติศาสตร์อันยาวนานในย่านนี้ หากลองเดินข้ามสะพานตอนพระอาทิตย์ขึ้น ก็จะได้พบกับประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ สะพานแห่งนี้เป็นสิ่งปลูกสร้างที่สวยงามที่สุดของกรุงปราก และได้รับความนิยมในหมู่คู่รัก
หากเดินทางมาจาก New Town เพื่อที่จะไป Charles Bridge ควรนั่งรถรางมาจะดีที่สุด แต่หากเดินทางมาจาก Old Town และ Lesser Town สามารถเดินเท้ามาได้ง่าย ท่านยังสามารถเดินเล่นบนสะพานแห่งนี้ได้ตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่ไม่ควรพลาดเลยหากมาเที่ยวปราก